บทความน่ารู้

5 เทคนิคผ่อนคลายสมอง ช่วยให้สมองไม่ล้า ลมหนาวมาแล้วนะ ส่องแฟชั่นเข้าสู่ฤดูหนาว ไอเทมcamping ที่สายเดินป่าต้องมีไว้ตั้งแคมป์ คิดถึงอาหารจีนที่เยาวราช แนะนำของใช้ในครัวราคาน่ารัก ไม่ต้องไปถึงเมืองจีนก็สามารถพรีออเดอร์สินค้าจากจีนได้ 5 Application ดังจากจีนที่คนไทยชอบโหลดมาใช้ แนะนำสินค้าสุดฮิตให้กับแม่ค้าออนไลน์ ขายดี ไลฟ์สดจนไฟลุก สั่งสินค้าจากจีนทำไมยากขนาดนี้ “จีน” เป็นกำลังจะเป็นมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจโลก วันตรุษจีน เปิดฟ้าส่องโลก : พ.ศ.2563 สถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ทั่วประเทศ เปิดฟ้าส่องโลก : จีน-สหรัฐฯ วันนี้ เศรษฐกิจจีน Q2 โตต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษ สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจีนระลอกใหม่ เล็งเสื้อผ้า-รองเท้า หวั่นทำราคาพุ่ง!! จับตาสินค้าจีนทะลักเข้าไทยพิษทรัมป์ กินเผ็ดจัดไม่ใช่แค่แสบปาก แต่ยังอันตรายต่อสุขภาพด้วย ! สงครามการค้าจีน - สหรัฐฯ SME ไทยได้หรือเสีย ? WeChat Pay คืออะไร ?
ลดค่าเงินหยวนกู้เศรษฐกิจ สินค้าจีนทะลักระลอกสอง!

ลดค่าเงินหยวนกู้เศรษฐกิจ สินค้าจีนทะลักระลอกสอง! | เดลินิวส์


„แน่นอน! การพลิกตัวของจีนครั้งนี้ ทำให้หลายประเทศต้องสะเทือน เห็นได้จากค่าเงินในหลาย ๆ สกุล เริ่มอ่อนค่าลง ตลาดหุ้นหลายประเทศติดลบถ้วนหน้า ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปักหัวลง เข้ามากระหน่ำซ้ำเติมเข้าให้อีก เชื่อได้เลยว่า... อีกไม่นานผลกระทบอาจลุกลามไปถึงการท่องเที่ยวและการส่งออกของประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาและเน้นส่งออกสินค้าในระดับล่างถึงระดับกลาง ที่อาจได้เห็นสินค้าจีนราคาถูกกระหน่ำตีตลาดอีกระลอก ไม่กังวลหากหยวนอ่อนแค่ 2% ส่วนไทยคงหนีไม่พ้นเช่นกัน โดยบรรดากูรูได้ประเมิน 2 ทิศทาง คือไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยมากนัก ขณะที่อีกฝ่ายมองว่ากระทบมาก ซึ่งฝ่ายที่เชื่อว่าไม่มีผลกระทบ ถ้าเงินหยวนอ่อนค่าเพียงแค่ 2% เนื่องจากไทยเป็นสินค้าคนละตลาดกัน และสินค้าไทยยังเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก ว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน หากวัดระดับของสินค้าใน 3 ระดับ สินค้าไทยคงอยู่ระดับกลาง และหลาย ๆ ประเภทก็พัฒนาขึ้นไปอยู่ในระดับบน ต่างจากจีนที่เน้นสินค้าราคาถูกเพื่อเจาะกลุ่มตลาดล่างในเกือบทุกตลาดทั่ว โลก แม้จีนกำลังพัฒนามาตรฐาน แต่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อน เพราะในสายตาของผู้บริโภคทั่วโลกยังมองว่าสินค้าจีนไม่มีมาตรฐาน ซึ่งในตลาดล่างนี้ผู้ส่งออกไทยก็เลี่ยงหนีไปหมดแล้ว เพราะคงไม่สามารถสู้จีนในเรื่องของต้นทุนได้ แต่ประเทศที่คงได้รับผลกระทบคงหนีไม่พ้นสินค้าอย่างเพื่อนบ้านของไทยอย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย และประเทศอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนา เพราะยังมีสินค้าอีกจำนวนมากที่เน้นผลิตเชิงปริมาณเพื่อจำหน่ายในราคาถูก ๆ เนื่องจากต้นทุนจากแรงงานที่ต่ำ ซึ่งตรงนี้คงได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนตีตลาดได้ นอกจากนี้ ประเมินว่าสินค้าไทยอาจได้รับอานิสงส์ที่ดีก็เป็นไปได้ โดยเฉพาะสินค้าวัตถุดิบ เช่น การผลิตรถยนต์ หากจีนลดราคาลงได้อีก เชื่อว่าทำให้ยอดผลิตพุ่งกระฉูดอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้อาจมีการสั่งนำเข้าวัตถุดิบ เช่น ยางพาราที่ใช้ในการผลิตยางรถยนต์จากไทยเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ รวมถึงมันสำปะหลังที่นำไปใช้เป็นผลิตแทน เป็นต้น เกษตร-ท่องเที่ยวยังรับได้ แม้แต่ในแง่ของสินค้าเกษตรหรืออาหารอื่น ๆ ที่หน่วยงานของรัฐ อย่างกระทรวงพาณิชย์มองว่า สินค้าเหล่านี้คงไม่ได้รับผลกระทบเช่นกันหากส่งออกไปยังตลาดจีน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนในจีนมีรายได้ที่สูงขึ้นและเลือกบริโภคสินค้าที่มี คุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐีรุ่นใหม่ในจีนมีนับร้อยล้านคนทีเดียว...เห็นได้จากผลไม้ ของไทยแม้ช่วงนี้มีราคาแพงไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ลำไย มังคุด จากสภาพอากาศที่แล้งก่อนหน้านี้ ทำให้ผลไม้มีผลผลิตน้อยลง แต่บรรดาพ่อค้าของจีนกลับมาเหมาสวนผลไม้ไทยเพื่อไปจำหน่ายในจีนพร้อมทั้งให้ ราคาแก่เกษตรกรหรือเจ้าของสวนอย่างงาม ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นภาคเดียว ที่สามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย ซึ่งประเมินกันว่า หากเงินหยวนอ่อนค่าลงแค่ 2% คงไม่กระทบต่อนักท่องเที่ยวจีน เพราะการที่นักท่องเที่ยวจ่ายสินค้าแพงขึ้นอีก 2% ถือว่าไม่มาก เช่น เดิมนักท่องเที่ยวเคยจ่ายเงินในไทย 1,000 บาทต่อวัน ก็ต้องจ่ายเพิ่มเป็นวันละ 1,020 บาท เท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่าภาคการท่องเที่ยวไทย มีการพัฒนามากแล้ว และที่สำคัญเน้นส่งเสริมกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและหลากหลายจากหลาย ประเทศ รวมถึงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอาเซียนให้เข้ามาจับจ่ายในไทย เอกชนห่วงจีนลดค่าเงินเกิน 2% สำหรับเหตุที่หลายฝ่ายมีความกังวลมากกว่า โดยเฉพาะฝั่งของเอกชน ที่กังวลว่า ค่าเงินหยวนอาจอ่อนค่าลงได้อีก หากเป็นเช่นนั้นจริง คงกระทบ 2 เด้ง คือ เศรษฐกิจจีนอาการคงหนัก ซึ่งมีผลต่อประเทศคู่ค้าด้วยเนื่องจากเศรษฐกิจมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และอีกเด้ง คือ การส่งออกไทยรวมถึงการท่องเที่ยวไทย คงมีผลกระทบตามมาแน่ หาก...เงินหยวนอ่อนค่าลงอีก ที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่าง ๆ ที่อาจทำให้สินค้าบางประเภทถูกสินค้าของจีนตีตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ไม่สูงมากนัก หรือ มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ อย่างกลุ่มอาเซียน อินเดีย เอเชียใต้ แอฟริกา เป็นต้น เนื่องจากผู้บริโภคจำเป็นต้องมีมาตรการในการประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซา สินค้าจีนดัมพ์ราคารอบสอง ผลกระทบที่ตามมาคือ ผู้ส่งออกไทยจะลำบากมากขึ้นในการทำตลาด เพราะราคาสินค้าของจีนที่ถูกกว่าไทยอยู่แล้ว จะถูกมากกว่าสินค้าไทยขึ้นอีก เพราะอย่าลืมว่าแม้สินค้าหลายประเภทหนีจีนไปอยู่ในอีกระดับ แต่ยังมีสินค้าอีกหลายประเภทที่จีนยกระดับมาอยู่ในระดับเดียวกับไทย ซึ่งง่ายต่อการที่จีนจะดัมพ์ราคาอีกครั้ง เพื่อแย่งสัดส่วนตลาดในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นอีก ทั้งหมดอาจกระทบต่อส่งออกไทยในภาพรวมให้ย่ำแย่ไปอีก โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารทะเลที่ไม่ค่อยดี เพราะต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา ทั้งเรื่องการค้ามนุษย์จากสหรัฐ การถูกใบเหลืองจากยุโรป และการจัดระเบียบเรือประมง ซึ่งหากถูกสินค้าจีนดัมพ์ราคาอีกรับรองคงไม่ใช่การส่งออกไทยติดลบ 3% แต่อาจเป็นติดลบ 4 ขึ้นไปก็เป็นได้ ขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าไปยังจีน แม้ว่าสินค้าไทยค่อนข้างได้รับความสนใจจากจีนโดยเฉพาะสินค้าเกษตร แต่เชื่อว่าในอนาคตคงถูกผู้นำเข้าจากจีนไล่บี้ กดราคาสินค้าให้ลงตามเงินหยวนแน่นอน หากไม่ได้... เชื่อได้เลยว่าสินค้าราคาถูกจากเพื่อนบ้านไทยพร้อมรอคิวที่จะเข้าไปเจรจาแทน สินค้าไทยก็เป็นได้เช่นกัน สบช่องแห่นำเข้าสินค้าจีน นอกจากการถูกแย่งตลาดส่งออกแล้ว สิ่งที่น่ากังวลมาก คือ การค้าชายแดนของไทยกับเพื่อนบ้านที่ปัจจุบันรัฐบาลได้ตั้งความหวังเป็นตัว ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย อาจทำให้สินค้าจีนตีตลาดได้จากปัจจุบันที่สินค้าจีนครองตลาดอยู่ส่วนหนึ่ง แล้ว อย่าลืมว่าผู้นำเข้าสินค้าจากไทยหรือแม้แต่เพื่อนบ้าน จะสบช่องช่วงค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง เพิ่มออร์เดอร์นำเข้ามากขึ้น เพราะมีโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น โดยเฉพาะเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รวมถึงสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป ซึ่งตรงนี้ จะกระทบต่อผู้ประกอบการท้องถิ่นของไทยแบบเต็ม ๆ เพราะสินค้าถูกจากจีนจะทะลักเข้าไทยมากขึ้น รัฐ-เอกชนเตรียมแผนรับมือ ดังนั้นแนวทางที่ภาครัฐและผู้ประกอบการรับมือขณะนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องใช้มาตรการกีดกันทางการค้า หรือการเรียกเก็บภาษีกับสินค้าโดยเฉพาะเหล็ก วัสดุก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าของจีนมากขึ้น รวมถึงการออกมาตรฐานบังคับสินค้านำเข้าให้มีมาตรฐานมากขึ้น ช่วยลดปัญหาสินค้าที่ไม่มีมาตรฐานจากจีนได้ระดับหนึ่ง ตรวจเข้มสินค้าตามด่าน ให้ภาครัฐเร่งเจรจากับรัฐบาลจีนเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วในการให้จีนลดการ อุดหนุนการผลิตและส่งออกเหล็กและอื่น ๆ มายังไทย ขณะที่ผู้ส่งออกคงหนีไม่พ้นในเรื่องของการขยันและตื่นตัวหามาตรการรักษาส่วน แบ่งการตลาด และขยายตลาดใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดสินค้าที่ผู้บริโภคเน้นเรื่องมาตรฐาน รวมถึงการเร่งสร้างเครือข่ายกับพ่อค้าเพื่อนบ้านในการขยายตลาดค้าชายแดน เพราะอย่าลืมว่าเพื่อนบ้านไทยเริ่มมีรายได้สูงและยอมรับสินค้าไทยมากกว่า สินค้าราคาถูกจากประเทศจีน ต้องยอมรับว่า...การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของพญามังกรครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบ ทั้งดีและไม่ดีต่อเศรษฐกิจทั่วโลกซึ่งทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการจำเป็นต้อง มีแผนรับมืออย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง...ไม่เช่นนั้นผู้ส่งออกและธุรกิจท้อง ถิ่นของไทยเจอวิกฤติทับถมอีกรอบแน่นอน.“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/economic/341346
 

 

66,709      30-09-2015