กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนคลายร้อนเพิ่มน้ำให้กับร่างกายด้วยการดื่มน้ำเปล่า อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน และกินผักผลไม้ใกล้ตัวซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำสูง เช่น แตงกวา คะน้า มะเขือเทศ แตงโม มะละกอ ฝรั่ง และสะระแหน่ ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงหน้าร้อนอาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย เกิดภาวะขาดน้ำได้ การป้องกันจึงควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน และกินผัก ผลไม้ ที่มีส่วนประกอบของน้ำเต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งผักและผลไม้หลายชนิดเป็นที่คุ้นเคยหรือกินกันเป็นประจำอยู่แล้ว อุดมไปด้วยน้ำสูงถึงร้อยละ 90 ช่วยลดความร้อนและทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเนื่องจากอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ช่วยลดการอักเสบจากการเผาไหม้ของแสงแดดในหน้าร้อน ช่วยปกป้องผิวและสายตาจากการถูกทำลายจากแสงแดด ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ได้แก่
1. แตงกวา
2. คะน้า
3. มะเขือเทศ
4. แตงโม
5. มะละกอ
6. ฝรั่ง
สะระแหน่ เป็นสมุนไพรเย็น ช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับเหงื่อ ระบายความร้อน มีสารเมนทอลที่มีคุณสมบัติเย็น ใช้ในการรักษาอาการอ่อนเพลียและบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
ทั้งนี้ ในฤดูร้อนโรคท้องร่วงจะมีโอกาสเกิดสูงกว่าฤดูกาลอื่น ๆ หากมีอาการท้องร่วงจะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำหรือเกลือแร่ สามารถดื่มผงเกลือแร่หรือที่เรียกว่า โออาร์เอส (ORS: Oral Rehydration Salts) โดยละลายผงเกลือแร่ในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วตามปริมาตรและวิธีที่ระบุบนฉลาก ดื่มเพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียได้
ควรเลือกกินผลไม้ รสไม่หวานจัด ควรกินวันละ 3-5 ส่วน ผลไม้ 1 ส่วน เช่น แตงโม 6 ชิ้นคำ หรือมะละกอ 6 ชิ้นคำ หรือ ฝรั่งครึ่งลูก และกินผักอย่างน้อยมื้อละ 2 ทัพพี หน้าร้อนผู้คนมักต้องการดื่มเครื่องดื่มรสหวาน หากรู้สึกอยากดื่มน้ำหวาน ควรเลือกดื่มน้ำผักผลไม้สดจากธรรมชาติ น้ำผลไม้สำเร็จรูป 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การกินน้ำผลไม้ก็จะได้รับน้ำตาลสูงกว่าผลไม้สด เพราะจะมีโอกาสกินในปริมาณมากกว่า
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ภาพ : iStock
ที่มา : www.sanook.com
2,999 20-03-2019